เมนู

กว่าเก่าด้วยสัจกิริยา ซึ่งสมเด็จพระพุทธองค์เจ้ามีพระพุทธฎีกาไว้นั้นไม่ผิด ข้อซึ่งพระองค์
โปรดประทานธรรมเทศนาไว้ในพระสูตรว่า บุคคลที่มีตาอันมิได้มีจักขุวัตถุ จักขุประสาท มิ
อาจจะได้ทิพจักขุนั้น ประสงค์เอาทิพจักขุที่ได้ด้วยภาวนาปัญญา ขอบพิตรจงรู้วัตถุทั้งสองนี้
สมเด็จพระเจ้ามิลินท์ภูมินทราธิบดีมีพระราชหฤทัยโสมนัสตรัสสรรเสริญพระนาคเสน
ผู้วิเศษ ดุจเหตุที่วิสัชนามาแต่หนหลังนั้น
สีวิรัญโญจักขุทานปัญหา คำรบ 5 จบเท่านี้

คัพภาวักกันติปัญหา ที่ 6


สมเด็จพระเจ้ามิลินท์มีพระราชโองการตรัสถามว่า ภนฺเต ข้าแต่พระนาคเสนผู้ปรีชา
สมเด็จพระมหากรุณามีพระพุทธฎีกาตรัสไว้ว่า ลักษณะแห่งสัตว์ทั้งหลาย คือหญิงชายชาติสัตว์
ดิรัจฉานจะย่างลงสู่ครรภ์ ย่อมมีสันนิบาตประชุมพร้อมทั้ง 3 ประการ คือบิดามารดาพร้อม
เพรียงกันประการ 1 มารดามีระดูประการ 1 สัตว์ลงปฏิสนธิประการ 1 สิริเป็นสันนิบาต 3
ประการฉะนี้ ถ้าว่าหย่อนจากสันนิบาตขาดไปสิ่งหนึ่งสิ่งใดแล้วนั้น สตรีภาพจะมีครรภ์หามิได้
พระพุทธฎีกาตรัสไว้ฉะนี้ เป็นที่มนุษย์นิกรเทพดาจะพึงฟังจำไว้เป็นเยี่ยงอย่างไป ครั้นว่าตรัสไว้
ดังนี้แล้ว มีพระพุทธฎีกาตรัสเทศนาในที่อื่นว่า สันนิบาตมี 2 ประการเล่า เหมือนเจ้าสาม
กระนั้นลงปฏิสนธิในครรภ์นางปาริกาดาบสินี มีแต่สันนิบาตทั้ง 2 เป็นแต่พระทุกุลบัณฑิต
ลูบท้องนางปาริกาผู้มีระดู จะจัดเป็นบิดามารดาพร้อมเพรียงกันนั้นยังไม่ได้ จึงได้แต่สันนิบาต
2 ประการ คือนางปาริกามีระดูประการ 1 พระสามลงปฏิสนธิประการ 1 สิริเป็นสันนิบาต 2
ประการเท่านั้น จะได้มีสันนิบาตเป็น 3 ประการหามิได้ ข้อหนึ่งเล่าใช่แต่เท่านั้นเหมือนอิสีสิงค-
ดาบสนั้น มารดาก็เป็นมฤคี นางเนื้อมากลืนกล้ำกินซึ่งอสุจิของพระฤๅษี อันตกติดอยู่กับเส้น
หญ้านั้นก็มีอยู่นิทาน 1 ใช่แต่เท่านั้น เหมือนมาตังคฤๅษี ลูบลงที่นาภีนางพราหมณ์ด้วยมือ
ขวาเมื่อขณะระดูมีมา ได้บุตรชื่อว่าเจ้ามัณฑัพยมานพนี้เรื่อง 1 ใช่แต่เท่านี้ เหมือนหนึ่งสัง-
กิจจกุมารอันเป็นลูกนางเนื้อ อันกินซึ่งอสุจิแห่งพระกุมารกัสสป อันเป็นบุตรนางภิกขุนี ด้วย
นางภิกขุนีเอาอสุจิพระมหาเถระใส่ลงในกลางกำเนิดนั้น ก็มีปรากฏอยู่นิทาน 1 นี้และจะเชื่อเอา
คำหน้าว่าสันนิบาตมี 3 ประการ คำหลังที่ตรัสว่าสันนิบาต 2 ประการก็จะผิด ถ้าจะเชื่อ